วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556


การต่อสู้ของ”มด” คือทิศทางของพลังสามประสาน นักศึกษา กรรมกร ชาวนา..เพื่อคนจน และประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

5 ธันวาคม 2012 เวลา 18:29 น.
ตลอดเส้นทางการต่อสู้จนวาระสุดท้ายของชีวิต  ..”มด” วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์   …ไม่อาจแยกจากประวัติศาสตร์การต่อสู้ของขบวนนักเรียนนักศึกษาประชาชน   ที่มีอุดมการณ์ ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และเพื่อ คนจน

                วัยเยาว์แห่งนักเรียนของมดก่อน ๑๔ ตุลา ๑๖ เป็นช่วงกระแสของนักเรียนนักศึกษาที่เริ่มตระหนักถึงอุดมการณ์ที่จะต้อง“รับใช้ประชาชน” และหลัง ๑๔ ตุลาก็ยิ่งโถมตัวเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของกรรมกร ชาวนา  เพราะการมีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้งยังไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม และการกดขี่ที่หนักหน่วง  จึงเกิดการประสานกับนักเรียนนักศึกษาปัญญาชนเป็นพลังสามประสาน”อย่างกว้างขวาง
                   มดเข้าร่วมการต่อสู้ทั้งของชาวนา กรรมกร และเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงธรรมศาสตร์ ปี ๒๕๑๗  และในที่สุดได้ทุ่มเทกับการต่อสู้ของกรรมกร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้ของกรรมกรฮาร่า ที่เป็นตำนานหนึ่งที่สำคัญของขบวนกรรมกรไทย  จากการกดขี่ ขูดรีดแรงงาน หญิงและเด็กอย่างหนัก   เมื่อลุกขึ้นสู้ขอความเป็นธรรมกลับถูกคุกคามทำร้ายอย่างป่าเถื่อนทั้งจากกลุ่มอิทธิพลของทุนเอง และจากเจ้าหน้าที่ผู้ใช้อำนาจรัฐ   มีการต่อสู้ที่เด็ดเดี่ยวจนถึงขั้นยึดโรงงานทำการผลิต   และมีการหนุนช่วยจากขบวนแรงงาน นักศึกษา ศิลปินเพื่อชีวิต  ถือว่ามีการรณรงค์ต่อสังคมและสื่อให้เข้าใจการต่อสู้อย่างแข็งขัน…

                 แน่นอนว่ากรรมกรฮาร่าถูกปราบ และเมื่อเกิดกรณีการปราบปรามขบวนนักศึกษาประชาชนอย่างโหดเหี้ยมในเหตุการณ์ ๖ ตุลา ๒๕๑๙  มดและกรรมกรฮาร่าจำนวนหนึ่งก็เข้าร่วมการต่อสู้ในเขตป่าเขากับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เช่นเดียวกับนักเรียน นักศึกษาปัญญาชน และกรรมกรชาวนาทั่วประเทศ และเมื่อกลับจากป่าก็ยังโถมตัวเข้าร่วมการต่อสู้กับคนจน ชาวนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัชชาคนจน  รวมทั้งการไปเข้าร่วม และให้กำลังใจ ถ่ายทอดบทเรียนแก่ ขบวนคนจน ชาวนา และการปกป้องสิ่งแวดล้อม ทั่วประเทศ…จนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
                      เรื่องราวของกรรมกรฮาร่าได้ถูกบันทึกในพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย  ที่มีนักศึกษาประชาชน ทุกระดับไปเยี่ยมชมต่อเนื่อง  พิพิธภัณฑ์แรงงานไทยก่อตั้งและบริหารงานโดยขบวนกรรมกร   ในห้องการจัดแสดงยุคร่วมสมัยที่เริ่มต้นจาก ๑๔ ตุลา ๑๖   มีทั้งรูปภาพ โปสเตอร์เก่าๆ กางเกงยีนส์ เรื่องราวของฮาร่า    รวมทั้งพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย ได้เชิญ”มด” และกรรมกรฮาร่า มาเล่าเรื่องราวย้อนอดีต  เพื่อเติมเต็มบันทึกประวัติศาสตร์การต่อสู้ของกรรมกรฮาร่า  และบทบาทของนักศึกษากับขบวนกรรมกร   นอกจากนี้มดเองก็มีส่วนประสานนำพาขบวน สมัชชาคนจนมาร่วมงานกับขบวนการกรรมกรในหลายการเคลื่อนไหว จึงเป็นภาพตัวแทน ของพลังสามประสานรูปแบบหนึ่งและเป็นที่รู้จักของผู้นำแรงงาน

                     พิพิธภัณฑ์แรงงานไทยมีการจัดงานรำลึกถึงผู้นำกรรมกรที่เสียชีวิตแล้วตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบันต่อเนื่องมาโดยตลอด    โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ เมื่อวันที่ ๒๑ ตค.๕๕ มีแนวคิด ขยายวงถึงนักสู้เพื่อกรรมกรที่มาจากกลุ่มปัญญาชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพราะการต่อสู้ของ ขบวนการกรรมกรไม่อาจแยกจากกันกับขบวนการต่อสู้ทางการเมืองของสังคมไทย โดยเฉพาะขบวนปัญญาชน รวมทั้งการต่อสู้ของชาวนาในงานรำลึกจึงมีเรื่องราวของปัญญาชนรุ่นเก่าๆ      มาจนถึงจิตร ภูมิศักดิ์   พี่ทองใบ ทองเปาด์   อ.ธีรนาถ กาญจนอักษร  และ”มด ..วนิดา” ฯลฯ  รวมทั้งนิยม ขันโท ผู้นำฮาร่า ที่ยังมีชีวิตอยู่  ก็มาร่วมกล่าวรำลึกด้วย

                      ขบวนแรงงานมีความพยายามเรียนรู้และประสานการทำงานกับนักวิชาการ สถาบัน วิชาการ  องค์กรพัฒนาเอกชน  แม้จะยังไม่สามารถก่อรูปพลังสามประสาน ชัดเจนเช่นในอดีต  แต่ก็เริ่มต้นมาพอสมควร  โดยเฉพาะการยอมรับแนวคิดสามประสาน การทำงานกับชุมชน ที่ปกป้องสิ่งแวดล้อม  การร่วมมือกับกลุ่มเกษตรพันธสัญญาและแรงงานนอกระบบในชนบท  มีการประสานร่วมมือกับเยาวชนนักศึกษา  รวมทั้งผู้ที่จบแล้วเข้ามาร่วมทำงานกับขบวนแรงงานมากขึ้น  เช่น  มีอาสาสมัครนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน  ไปร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กร แรงงานหลายรุ่น  และพัฒนาต่อมาเป็นทนายความแรงงานรุ่นใหม่  หรือตอนน้ำท่วมวิกฤติหนักปี ๒๕๕๔   มีทีมเยาวชนนักศึกษามาร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยตั้งค่ายช่วยเหลือแรงงานทั้งไทยและแรงงานข้ามชาติ  
    
                       มดเข้าธรรมศาสตร์ รุ่นปี ๒๕๑๗และเข้าร่วมกลุ่มผู้หญิงธรรมศาสตร์ ซึ่งมีแนวคิดร่วมกันว่า  ความเสมอภาคหญิงชายและทุกกลุ่มจะเกิดขึ้นไม่ได้แท้จริงและยั่งยืน ถ้าสังคมไทยไม่มีประชาธิปไตยทางการเมือง  และต้องเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ที่เคารพสิทธิชุมชน  สิทธิในการตัดสินใจและจัดการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมของตน  และการมีประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ  ที่คนจนต้องมีที่ดินทำกิน  มีที่อยู่อาศัย  และมีเสรีภาพในการต่อสู้รวมตัว...ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางก้าวเดินของมดเอง..ของเพื่อนๆสมาชิก
กลุ่มผู้หญิง  และยังเป็นทิศทางที่ขบวนต่อสู้เพื่อความเสมอภาคก้าวเดินอยู่ถึงปัจจุบัน
                                                 
                          บทบาทในสมัชชาคนจนที่กล้าหาญ  เด็ดเดี่ยว และเสียสละของมด    เป็นที่กล่าวขวัญและโดดเด่น  เป็นที่ยอมรับของหลากหลายกลุ่ม หลายระดับ  และมีผลให้มดต้องเดินทางทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียนและให้กำลังใจการต่อสู้ของชุมชน  ในการต่อสู้เพื่อปกป้องชุมชนของตนเองจากโครงการการพัฒนาของรัฐ  จากการใช้อำนาจรัฐไม่เป็นธรรม  ทั้งพี่น้องสลัม   พี่น้องชนเผ่า   การถูกฟ้องคดีของมด  และความเข้มแข็ง  การทำงานอย่างมีเครือข่าย ที่ไม่โดดเดี่ยว…ซึ่งช่วยให้หลายกลุ่ม หลายผู้นำการต่อสู้ มีกำลังใจก้าวเดินต่อสู้ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ  ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ แม้จะถูกจับกุมคุมขัง หรือหลายคนรอบข้างเสียชีวิตไปก็ตาม
                     ๖ ธค.๕๕ ครบรอบการจากไปของมด ๕ ปีแล้ว  เวลาดูผ่านเร็วมากท่ามกลางปัญหาที่ รุมเร้าคนจนยังดำรงอยู่  แต่ขบวนการต่อสู้ของเยาวชนนักศึกษา กรรมกร ชาวนา ยังคงขับเคลื่อนต่อไป  บนทิศทางพลังสามประสานที่แม้รูปแบบอาจต่างจากเดิม แต่เจตนารมณ์แและจิตวิญญาณแห่งการเชื่อมั่นในประชาชน และจิตใจต้องกล้าหาญ เสียสละ ยังคงได้รับการยึดมั่นต่อไป
                                  รำลึกถึงมด น้องรัก ..มดได้พิสูจน์เส้นทางชีวิตของเธอแล้วว่า ..”อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตายอย่างมีเกียรติ”นั้นเป็นเช่นใด

                                                              สุนี ไชยรส  ๑ธันวา ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น